หมวด ๓
กรณียะในการไปต่างประเทศ
ข้อ ๙ ในระยะที่ยกเป็นเหตุในการขอเดินทางไปต่างประเทศได้มีกำหนดดังนี้
(๑)
ไปสอนพระปริยัติธรรมหรือสอนพระพุทธศาสนาในถิ่นอันสมควร
(๒)
ไปศึกษาวิชาอันไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยและสมควรแก่สมณวิสัย
(๓)
ไปนมัสการปูชนียวัตถุ และหรือปูชนียสถานเป็นหมู่คณะ ตามที่คณะกรรมการ
ศ.ต.ภ.เห็นสมควร
(๔)
ไปบำเพ็ญกุศลเนื่องด้วยถวายผ้ากฐินตามเทศกาลหรือผ้าป่า
(๕)
ไปเยี่ยมอุปัชฌาย์ อาจารย์หรือญาติชั้นบุรพการีหรือญาติอื่นใด
ตามที่คณะกรรมการ ศ.ต.ภ. เห็นสมควร หรือ
(๖)
ไปกิจนิมนต์ตามที่คณะกรรมการ ศ.ต.ภ. เห็นสมควร
ข้อ ๑๐ พระภิกษุผู้ได้รับอาราธนาไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมหรือสอนพระพุทธศาสนาจากเจ้าอาวาส
เจ้าคณะ องค์การ สมาคมหรือสถาบันอื่นใดในต่างประเทศ ให้เป็นหน้าที่ของผู้ได้รับอาราธนาแจ้งรายละเอียดพร้อมด้วยหลักฐานการอาราธนา
สถานที่จะทำการ กิจที่จะทำ วิธีที่จะทำ วิธีดำเนินการ การอุปถัมภ์ในการเดินทาง
และการเป็นอยู่ ที่พักอาศัย
ถ้าหลักฐานต่าง
ๆ เป็นภาษาต่างประเทศ ให้แปลเป็นภาษาไทย โดยผู้แปลและผู้ไปนั้นลงนามรับรองคำแปลด้วย
ข้อ ๑๑ พระภิกษุผู้ประสงค์จะเดินทางไปศึกษาวิชาอันไม่ขัดต่อพระธรรมวินัยและสมควรแก่สมณวิสัย
ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติเฉพาะอีกส่วนหนึ่ง ดังนี้
(๑)
เป็นเปรียญ
(๒)
มีพื้นฐานความรู้สามัญศึกษา ไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือเทียบเท่า
(๓)
มีสุขภาพอนามัยดี ซึ่งนายแพทย์แผนปัจจุบันชั้น ๑ ตรวจและรับรองเป็นหลักฐานว่าสามารถไปศึกษาได้
(๔)
มีสติปัญญาและฉันทะ วิริยะ ขันติ ปานกลาง เป็นอย่างต่ำ ในกรณีนี้ให้ผู้ขออนุญาตแสดงหลักฐานและคะแนนวิชาครั้งสุดท้ายที่ตนสอบไล่ได้
ข้อ ๑๒ พระภิกษุผู้ขออนุญาตเพื่อไปศึกษาในต่างประเทศต้องแจ้งรายละเอียดพร้อมด้วยหลักฐานเกี่ยวกับการศึกษา
ค่าใช้จ่ายในการศึกษาแต่ละปีและผู้อุปถัมภ์ในการเดินทาง ตลอดถึงการอุปถัมภ์ในการศึกษาจนกว่าจะจบหลักสูตร
ถ้าหลักฐานต่าง
ๆ เป็นภาษาต่างประเทศ ให้แปลเป็นภาษาไทย โดยผู้แปลและผู้ไปนั้นลงนามรับรองคำแปลด้วย
|